สื่อสารอย่างไรให้เข้าใจกันด้วย Emoji
เชื่อว่าหลายคนมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานต่างเจน ที่มีเป้าหมายในชีวิต ความเชื่อ รวมไปถึงแนวทางการทำงานที่ต่างกัน ส่งผลให้ต่างฝ่ายต่างเกิดความลำบากใจเมื่อต้องทำงานร่วมกัน โดยหากองค์กรไม่มีแผนรับมือปัญหาระหว่างช่วงวัยนี้ อาจส่งผลให้บรรยากาศการทำงานมีความขุ่นมัวใจ นำไปสู่การเกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
ปัญหาระหว่างช่วงวัย (Generation Gap) มักเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เป็นปัญหาที่พบได้ในทุกสำนักงาน โดยเฉพาะกับปัจจุบัน ที่การสื่อสารมักหลีกเลี่ยงการพูดคุยต่อหน้า และทดแทนด้วยการส่งข้อความหรืออีเมล จึงทำให้ผู้รับข้อความต้องตีความจากวิจารณญาณของตนเอง ที่อาจผิดแปลกและไม่ตรงกับเจตนาของผู้ส่ง นำไปสู่ความเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือด้านจิตใจตามมา อาทิ การทำงานเกิดความผิดพลาด หรือบุคลากรเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ เป็นต้น
เพื่อการแก้ไขปัญหา ผู้เชี่ยวชาญจาก Atlassian แพล็ตฟอร์มเพื่อการทำงานสมัยใหม่ ได้นำเสนอเทคนิคการสื่อสาร ตั้งแต่การใช้งานอิโมจิ (Emoji), การสื่อสารถึงความรู้สึก, การทดแทนภาษากายในการสื่อสารในสถานที่ทำงาน ซึ่งจะช่วยพัฒนาการสื่อสาร ให้ระบุถึงเจตนาได้อย่างชัดเจน พร้อมลดโอกาสในการเกิดความเข้าใจผิด จากการตีความโดยผู้รับด้วย
Tips: การเรียกใช้แป้นอิโมจิบน Windows สามารถทำได้โดยกด Windows logo key + . (ปุ่มจุด)
ในส่วนของ MacOS จะเป็น Command + Control + Spacebar
อิโมจิช่วยพัฒนาการทำงานในองค์กรอย่างไร?
ด้วยรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป การสื่อสารเองก็มีการวิวัฒนาการอยู่เสมอ หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 องค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานไปสู่ระบบไฮบริดหรือออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคลากรอย่างมาก ในด้านการสื่อสาร เนื่องจากตัวอักษรไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ หรือภาษากายร่วมด้วยได้เหมือนพูดคุยกันต่อหน้า ทางผู้ให้บริการแพล็ตฟอร์มการสื่อสาร อาทิ Microsoft Teams จึงแนะนำให้มีการใช้งานอิโมจิในการส่งข้อความ เพื่อทดแทนการแสดงอารมณ์ ซึ่งมีผลต่อการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
จากผลสำรวจด้านการสื่อสารที่จัดทำโดย ดร. Molly Sands หัวหน้าทีม Anywhere Lab แห่ง Atlassian พบว่า องค์กรที่ใช้อิโมจิในการสื่อสารมักมีบรรยากาศการทำงานที่ดีกว่า และประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่าถึงสามเท่า อันเป็นผลมาจากความเข้าใจในซึ่งกันและกัน บุคลากรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำความเข้าใจได้อย่างตรงประเด็น ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยในงานวิจัยยังมีการระบุถึงประโยชน์เพิ่มเติมอีก ดังต่อไปนี้ –
ส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน
ในหลายองค์กรมีนโยบายให้บุคลากรแสดงถึงอารมณ์ของตนผ่านการใช้งานอิโมจิ ไม่ว่าจะเป็นในชื่อโปรไฟล์ หรือเพื่อประกอบข้อความ ช่วยทดแทนการแสดงสีหน้าและอารมณ์ของผู้สนทนา พร้อมสื่อถึงสถานการณ์ในการทำงาน โดยอาจเป็นการใช้หน้ายิ้ม () เพื่อแสดงถึงความจริงใจ หรือกองไฟ (
) เพื่อแสดงถึงความเร่งด่วนในการทำงาน เพื่อนร่วมงานจะมีความเข้าใจได้อย่างทันที และสามารถสื่อสารกับบุคคลนั้นได้อย่างเหมาะสม
ลดปัญหาในการสื่อสาร
การใช้งานอิโมจิที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมการสื่อสารได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับบุคคลที่มีความแตกต่างในด้าน เพศ ช่วงวัย ภาษา ตลอดจนตำแหน่งงาน โดยบุคคลเหล่านี้อาจมีมุมมอง และวิธีการตีความหมายแตกต่างออกไป ส่งผลให้การสื่อสารอาจเกิดความผิดพลาดได้ เพื่อการลดปัญหาในการสื่อสาร ผู้ส่งสารอาจใช้อิโมจิประกอบด้วย ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนในการทำความเข้าใจแล้ว เพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร และมีผลดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์
จากตัวอย่างต่อไปนี้:
ข้อความที่หนึ่ง |
ข้อความที่สอง |
||
---|---|---|---|
บอส |
พรุ่งนี้ เรามาที่ห้องพี่หน่อยนะ เดี๋ยวจะคุยเรื่องผลการทำงานของเรา |
บอส |
พรุ่งนี้ เรามาที่ห้องพี่หน่อยนะ |
ความรู้สึก : วิตกกังวล, ตึงเครียด, ไม่สบายใจ |
ความรู้สึก : ความตื่นตัว, ความโล่งอก, ความกังวลน้อยลง |
แม้ว่าทั้งสองข้อความนี้ จะมีวัตถุประสงค์เดียวกัน แต่ในข้อความแรก ผู้รับสารจะตีความเป็นด้านแง่ลบได้ง่ายกว่า ด้วยเนื้อหาข้อความที่สื่อถึงความวิตกกังวล ในขณะที่ข้อความที่สอง แม้จะมีเนื้อหาเหมือนกัน แต่การใช้งานอิโมจิ ยังช่วยสื่อสารทางบวกได้ดีขึ้น ผู้ได้รับสารจะเกิดความตึงเครียดน้อยกว่าข้อความแรก ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีกำลังใจ ตลอดจนเป็นการสื่อถึงวัฒนธรรมการทำงานที่ดีด้วย
ช่วยประหยัดทรัพยากร
จากผลสำรวจ มีบุคลากรเพียง 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ระบุว่าพวกเขามีความมั่นใจในการสื่อสารผ่านตัวอักษร ทั้งในด้านการเลือกใช้คำ, ระดับภาษา และการสื่อเจตนา ส่งผลให้การทำงานไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้น หากองค์กรต้องการพัฒนาวัฒนธรรมการสื่อสาร อาจเริ่มจากการใช้งานอิโมจิ ซึ่งมีผลช่วยประหยัดเวลากว่า 40 ชั่วโมงต่อปีในการสื่อสารเพื่อการทำงาน ส่งผลให้องค์กรสามารถดำเนินงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาทักษะทางอารมณ์
การที่บุคลากรสรุปอารมณ์ของตนเองออกมาเป็นอิโมจิ จะช่วยฝึกการทำความเข้าใจกับความรู้สึกของตนเอง และช่วยให้แยกแยะอารมณ์ออกจากการทำงานได้ ส่วนองค์กรอาจนำข้อมูลไปใช้เพื่อการวิเคราะห์ถึงระดับความเครียด, บรรยากาศการทำงาน และช่วยสร้างแผนพัฒนาบุคคลได้อย่างตรงจุด นำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างยั่งยืน
สรุปได้ว่า การใช้งานอิโมจิมีผลต่อบรรยากาศการทำงาน และถือเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมการสื่อสารที่ดีในองค์กร แต่ท้ายที่สุดแล้ว การใช้งานยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ แม้ว่าการใช้งานอิโมจินี้ จะพึ่งได้รับความนิยมหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 แต่มันก็จะยังคงอยู่กับเราต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งหากองค์กรของคุณสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมนี้ได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วย
“(การใช้งานอิโมจิ) เป็นเพียงเทคนิคง่าย ๆ แต่กลับได้ผลที่ดี” ดร. Molly Sands กล่าว
เพื่อให้การทำงานมีความราบรื่น การสื่อสารต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม (Read the room) ตั้งแต่ การทำความเข้าใจสถานการณ์ เนื้อหาที่กำลังสื่อสาร อารมณ์ของคู่สนทนา ตลอดจนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ผู้ส่งสารจึงต้องมีทักษะและวิจารณญาณ ในการปรับใช้วิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับผู้รับ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ ฉะนั้น การใช้งานอิโมจิในสถานที่ทำงาน จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องมีความเหมาะสม และควรใช้เพื่อการสื่อสารภายใน ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์บุคลากร และส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว
การปลูกฝังวัฒนธรรมการสื่อสารที่ดี
การใช้งานอิโมจิถือเป็นก้าวแรกที่ดีในการส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน และมีส่วนช่วยเหลือในการพัฒนาองค์กร แต่เพื่อการปูรากฐานที่มั่นคง ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมการทำงานของตนเอง ให้เกิดการพัฒนาวัฒนธรรมการสื่อสารที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน และเข้ากับรูปแบบของบุคลากร โดยอาจเป็นการเรียนรู้จากองค์กรระดับโลกอย่าง วิธีการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรจาก Apple และนำองค์ความรู้นั้นมาปรับใช้ในองค์กรของคุณ
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ดีที่สุดในการพัฒนาวัฒนธรรม ย่อมเป็นการริเริ่มสร้างขึ้นใหม่ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ องค์กรจะสามารถกำหนดแนวทางและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม บุคลากรทุกคนจะมีความเข้าใจในเป้าหมายเดียวกัน พร้อมทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้องค์กรเติบโตต่อไป
เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น องค์กรต้องมีแผนระยะยาว เสมือนการซื้อใจบุคลากรให้มีความไว้วางใจ
โดยอาจเป็นการใช้งานแผนพัฒนาทักษะส่วนบุคคล (Individual Development Plan) ที่จะช่วยให้บุคลากรมีทักษะใหม่ ซึ่งทำได้ผ่านการส่งเข้าอบรมกับศูนย์ฝึกอบรมทักษะชั้นนำอย่าง Network Training Center ที่จะช่วยให้บุคลากร และองค์กรของคุณมีการพัฒนาไปในแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วย
หลักสูตรพัฒนาความร่วมมือในการทำงาน ที่จัดอบรมโดย NTC
อีกหนึ่งวิธีที่หลายองค์กรนิยม เพื่อการส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน คือการส่งบุคลากรเข้าอบรม เพื่อการพัฒนาทักษะ และทัศนคติให้เหมาะสมกับการทำงาน โดยเฉพาะกับทักษะการสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ผ่านการใช้งานหลักสูตร Soft Skills มาตรฐานระดับโลก จัดอบรมโดย Network Training Center ศูนย์อบรมชั้นนำในประเทศไทย พร้อมช่วยเหลือบุคลากรของคุณ ให้ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความร่วมมือในการทำงาน (Collaboration) มีดังนี้ –
Smart Communications for Smart Collaboration [SCSC]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมมีการพัฒนาทักษะการสื่อสารเพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการสร้างความไว้วางใจ การจัดการความขัดแย้ง และการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิภาพขององค์กร
Effective Communication & Collaboration [ECC]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาทักษะการสื่อสารในทุกรูปแบบ ทั้งการพูด น้ำเสียง ภาษากาย รวมถึงการเขียน เพื่อการส่งเสริมการทำงานให้มีความราบรื่น และพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างเหมาะสม
Coordination Skills [CR]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้รับทักษะการประสานงาน เพื่อการจัดการการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมเรียนรู้บทบาทและความรับผิดชอบของนักประสานงาน ตลอดจนเทคนิคการสื่อสารให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
Truly Listen with Heart [TLH]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้รับทักษะในการฟังอย่างลึกซี้ง เพื่อการทำความเข้าใจในความหมาย ความต้องการ ความเชื่อ และความรู้สึกของคู่สนทนา รวมถึงเทคนิคการฟังต่าง ๆ เพื่อให้คุณมีทักษะเป็นผู้ฟังที่ดี
Transformation Teamwork With DISC [DISC]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมเกิดความเข้าใจในตนเองและผู้อื่น ผ่านการใช้หลักการ DISC Framework เพื่อช่วยเหลือบุคลากรให้มีความเข้าใจและเข้าขากันในด้านการสื่อสารและการทำงาน
The Power of Positive Thinking in Workplace [PP]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอมรมเรียนรู้การพัฒนากรอบความคิดและทัศนคติเชิงบวกในที่ทำงาน การปรับเป้าหมายส่วนตัวให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร และทลายข้อจำกัดของตนเองด้วยทัศนคติที่ดี
Energize Your Power [EP]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทั้งกับตนเองและเพื่อนร่วมงาน เพื่อการเค้นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ พร้อมเรียนรู้เทคนิคเอาชนะข้อจำกัด และพัฒนาทัศนคติเชิงบวกที่ส่งผลดีต่อทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานร่วมกัน
Emotional Intelligent and Stress Management [EIS]
หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ถึงวิธีการจัดการอารมณ์และรับมือกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการสร้างเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี พัฒนาความสัมพันธ์ ตลอดจนส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน
แนวทางการแก้ไขปัญหาการสื่อสารในระยะยาว
การเรียนรู้ในหลักสูตรเหล่านี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาการสื่อสาร และเป็นวิธีลัดในการพัฒนาวัฒนธรรมการทำงาน แต่เพื่อการแก้ไขปัญหาของการสื่อสารในระยะยาว เราควรจะมีพื้นที่สนทนาร่วมกันระหว่างคนต่างวัย ให้บุคลากรหลายช่วงอายุสามารถหันหน้าเข้ามาคุยกันได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีอคติส่วนตัวหรือความผิดใจรวมอยู่ด้วย
เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมต้องเกิดขึ้นจากภายใน จากความร่วมมือของทั้งองค์กร โดยอาจเป็นการสร้างข้อตกลง การวางกฏระเบียบ การพัฒนานโยบายต่าง ๆ และการปลูกฝังวัฒนธรรมที่ดี ช่วยให้บุคลากรมองข้ามความแตกต่างทั้งด้าน เพศ ภาษา อายุ และตำแหน่ง ตลอดจนเกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี บุคลากรจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
นอกเหนือจากหลักสูตรข้างต้นแล้ว Network Training Center ยังมีหลักสูตรขั้นสูงเพื่อการพัฒนาทักษะไอทีรอบด้าน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กร กับการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญในสายงาน ผ่านหลักสูตรจากสถาบันระดับโลก คุณจะมั่นใจได้ว่าบุคลากรที่ผ่านการอบรมจากเรา จะมีความรู้ที่ตรงกับมาตรฐานอุตสาหกรรม ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมนำพาองค์กรของคุณให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน
การอบรมกับ NTC ยังให้ประโยชน์อื่นกับคุณได้อีก ดังนี้ –
- หลักสูตรออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ: เนื้อหามีความครอบคลุมถึงแนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรม มีความเป็นปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ในทันที
- คลาสอบรมยืดหยุ่น: ฝึกอบรมได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์ฝึกอบรม NTC, อบรมในพื้นที่ขององค์กร หรือจะเป็นช่องทางออนไลน์ก็สามารถทำได้
- การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ: การอบรมถ่ายทอดเนื้อหาในหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำกิจกรรมเวิร์กช็อป การจำลองสถานการณ์ และกรณีศึกษา เพื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับทุกคน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @NTC-LINE หรือโทร 083-779-7732 ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้คำแนะนำ ไม่ว่าคุณจะต้องการคลาสอบรมส่วนตัว เสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ หรือความถนัดเฉพาะทาง Network Training Center ก็พร้อมที่จะช่วยคุณพัฒนาทักษะของบุคลากร สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี พร้อมบรรลุทุกเป้าหมายขององค์กร
หากคุณยังไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัย! ติดต่อเพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของ NTC ได้เลย!
โทร: 083-779-7732
Email: sales@trainingcenter.co.th
Line: https://lin.ee/lprR4Xa