COURSES CATALOG

Strategic Coaching for High Performance

DURATION

1  Days

PRICE LIST

9,500  Baht (Exclusive of VAT 7%)
Special Offer : ติดต่อเรา

(การโค้ชเพื่อการขับเคลื่อนผลงานเชิงกลยุทธ์)

ในฐานะหัวหน้า ผู้จัดการ และผู้บริหาร นอกเหนือจากการดูแลและรับผิดชอบในผลงานของตนเองแล้ว ยังต้องแสดงภาวะผู้นำในการดูแลและพัฒนาทีมงานให้พัฒนาตนเองและสร้างผลงานให้กับองค์กรได้ด้วย ด้วยความรับผิดชอบและความห่วงใย จึงมีหลายครั้งที่ทั้งหัวหน้าและผู้จัดการมองเห็นปัญหาของทีมงานได้เร็ว และต้องรีบทำหน้าที่คอยช่วยเหลือและหาทางแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไป ซึ่งในระยะยาวส่งผลให้ทีมงานต้องพึ่งพิงการดูแลจากหัวหน้า หรือถึงขั้นต้องให้หัวหน้าลงมือช่วย จนทำให้หัวหน้าเองเสียเวลาไปกับทีมจนไม่มีเวลาพัฒนางานและศักยภาพของตนเอง 

การให้คำแนะนำทีมงานโดยการบอกวิธีการของเราออกไปเป็นวิธีการที่เร็ว และคาดหวังผลลัพธ์ได้ค่อนข้างชัดเจน แต่อาจขัดขวางต่อกระบวนการเรียนรู้ของทีมงานได้ เพราะทีมงานไม่ได้ใช้ศักยภาพของตนเองในการคิดและหาทางสู่เป้าหมายด้วยตนเอง อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการตัดสินใจ ไม่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบผลลัพธ์ หรือแม้กระทั่งสร้างความขัดแย้งได้ อันเนื่องมาจากประสบการณ์ ความเชื่อ ความคิด ของแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน การนำวิธีการที่ดีของเราไปให้คนอื่นๆ ใช้ทุกๆ ครั้ง เขาก็จะไม่สามารถคิดวิธีการของตนเอง หรืออาจจะใช้วิธีการของเราได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าเราก็เป็นได้ 

ผู้นำในฐานะโค้ช จึงเห็นศักยภาพของตัวเองและทีมงาน และมองพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงหลุมพรางที่ทีมงานติดอยู่ ผู้นำในฐานะโค้ชจึงสามารถใช้กระบวนการโค้ชทำหน้าที่ส่องกระจกให้ทีมงานมองเห็นศักยภาพในตนเองที่มากขึ้น เพื่อก้าวข้ามความเชื่อที่เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของเขา สามารถคิดหาวิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายที่ต้องการด้วยตัวเขาเอง และสร้างการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบการตัดสินใจของตนเอง 

การใช้การโค้ชด้วยการใช้หลักการของสมองและจิตวิทยาเชิงบวกในการบริหารทีมงาน จะช่วยให้ทีมงานใช้ศักยภาพของตนเองได้มากขึ้น มีการเรียนรู้และพัฒนาได้เร็วเพราะสามารถคิดเพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ ได้ด้วยตนเอง และมีทัศนคติเชิงบวกและความสุขต่อการทำงาน เพราะได้ใช้สิ่งที่เป็นคุณค่าของตนเองในการทำงาน ได้พัฒนาต่อยอดศักยภาพของตนเองให้มากขึ้น และยังใช้สิ่งที่ตัวเองมีเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ อีกด้วย

  • เพื่อให้หัวหน้างาน ผู้จัดการและผู้บริหารพัฒนาภาวะผู้นำในรูปแบบของตนเองด้วยกระบวนการโค้ช (Coach Yourself) 
  • เพื่อให้หัวหน้างาน ผู้จัดการและผู้บริหาร เข้าใจกระบวนการโค้ช และมีแนวทางในการฝึกฝนทักษะการโค้ชได้อย่างต่อเนื่อง
  • เพื่อสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจในการนำกระบวนการโค้ชไปใช้จริงในการดึงศักยภาพของทีมงาน 
  • เพื่อให้หัวหน้างาน ผู้จัดการและผู้บริหาร เรียนรู้ธรรมชาติการทำงานของสมอง (Neuroscience) เพื่อนำไปใช้ในการสร้างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทีมงานด้วยความเข้าใจผ่านกระบวนการโค้ช 

Principle of Coaching หลักการ ความสำคัญ กรอบความคิด องค์ประกอบ และกระบวนการโค้ช

หัวข้อที่ 1: หลักการและความสำคัญของผู้นำในฐานะโค้ช และองค์ประกอบของการโค้ช

  • หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการโค้ช
  • บทบาทของโค้ชสำหรับการพัฒนาทีมงาน
  • กรอบความคิดและทัศนคติสำหรับการเป็นโค้ช และความสำคัญของการการพัฒนาทีมงาน
  • องประกอบของการโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพทีมงาน 
  • วิเคราะห์ความแตกต่างของการพัฒนาทีมงานในแต่ละบทบาท (TAPS Model)
  • เทคนิคการผสมผสานบทบาทการพัฒนาทีมงานในแต่ละบทบาทเข้าด้วยกันเพื่อการทำงานอย่างมประสิทธิภาพ

หัวข้อที่ 2: กระบวนการโค้ชเพื่อการพัฒนาศักยภาพทีมงาน

  • การสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ Rapport & Trust
  • การตั้งเป้าหมายร่วมกัน Goal Setting
  • การใช้คำถามกระตุ้นศักยภาพ Powerful Question
  • การฟังเชิงลึก Deep Listening
  • การสะท้อนกลับเพื่อสร้างความกระจ่างชัด Reflection
  • การสร้างการเปลี่ยนแปลงและคำมั่นสัญญาในการลงมือปฏิบัติ commitment to change

หัวข้อที่ 3: ฝึกทักษะการสร้างความมั่นคงภายในตนเองและการสร้างความสัมพันธ์

  • พัฒนาความเป็นผู้นำภายในตนเอง  เข้าใจตน เข้าใจคน สลายอัตตา เพื่อการโค้ชชิ่งและพัฒนาภายในให้เติบโตอย่างแข็งแรง ยอมรับความแตกต่างโดยปราศจากอารมณ์เชิงลบ
  • ธรรมชาติของสมองกับการพัฒนาตนเอง (4F for Survive)
  • ART: ศิลปะการสื่อสารและการสร้างความไว้ใจในทีมงานก่อนการโค้ช
  • การอ่านและเข้าใจคนแต่ละประเภท และการประยุกต์ใช้กับบริบทของการเป็นผู้นำ
  • วิเคราะห์รูปแบบการตัดสินใจที่แตกต่างกันและวิธีโน้มน้าวใจคนแต่ละประเภท
  • ทักษะการเข้าใจและเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของทีมงาน
  • อิทธิพลของความแตกต่างทางบุคลิกภาพอันส่งผลต่อความไว้วางใจ และความขัดแย้งของผู้คน
  • กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์และสร้างความไว้วางใจในการบริหารทีมงานแต่ละสไตล์ด้วย 3V Model  

หัวข้อที่ 4: ฝึกทักษะการฟังเชิงลึกเพื่อค้นหาศักยภาพ

  • ทักษะการฟังเชิงลึกด้วยหลักการทางจิตวิทยา Satir Transformational Systemic Coaching
  • ค่านิยม / ความเชื่อ / ความรู้ /ประสบการณ์
  • สิ่งที่เป็นอิทธิพลและส่งผลต่อการฟัง 
  • หลุมพรางทางความคิดที่ส่งผลให้เกิดการฟังที่ล้มเหลวและก่อให้เกิดความขัดแย้ง

หัวข้อที่ 5: ฝึกการใช้คำถามและเครื่องมือในการโค้ชเพื่อการกระตุ้นศักยภาพในการขับเคลื่อนผลงาน

  • แนวทางการสร้างคำถามเชิงบวกเพื่อกระตุ้นศักยภาพผ่านโมเดลการขับเคลื่อนผลงาน 
  • แนวทางการตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง ทีมงาน และขับเคลื่อนผลงาน 
  • ปลุก Passion  ปั้น Performance ด้วยการตั้งเป้าหมายชีวิตที่สอดคล้องกับการทำงาน
  • เทคนิคการประยุกต์ใช้ SMART Goal Setting กับการวางแผนและการบริหารผลงาน
  • เรียนรู้กระบวนการโค้ชชิ่ง ด้วยเครื่องมือการโค้ชชิ่ง Coaching Card
  • ฝึกปฏิบัติและใช้เครื่องมือการโค้ชชิ่งด้วย GROW Model
  • ฝึกปฏิบัติและใช้เครื่องมือการโค้ชชิ่งด้วย Strategic Model