(การจัดการอารมณ์ (EQ) และการบริหารความเครียด)

การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน ทำให้บุคลากรในองค์กรต้องทำงานภายใต้เป้าหมายที่ท้าทาย เผชิญกับความตึงเครียดตลอดเวลา ทำให้สภาวะจิตใจอารมณ์ต้องทำงานภายใต้ความกดดันซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายในที่สุด บางคนเกิดความกังวลนอนไม่หลับ ร่างกายอ่อนเพลีย เกิดโรคร้ายตามมาในภายหลัง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมในการทำงานก็ส่งผลกระทบต่อตัวพนักงานด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากรูปแบบการทำงานในพื้นที่ที่จำกัด นั่งเป็นเวลานานๆ โดยไม่ลุกเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานๆ ต่อเนื่องกันโดยไม่ได้หยุดพัก เมื่อสภาวะทางอารมณ์และร่างกายของพนักงานไม่มีประสิทธิภาพ ย่อมเกิดผลเสียต่อการทำงาน เกิดอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ขาดงาน การปฏิสัมพันธ์ในการทำงานจึงเต็มไปด้วยการใช้อารมณ์ที่ไม่ดีส่งต่อถึงกัน ส่งผลถึงการผลิตและการบริการต่อลูกค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ดังนั้นในการทำงานที่ดี สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ พนักงานต้องรู้จักและรู้วิธีการจัดการอารมณ์และความเครียดด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีและมีความสุขต่องานที่ตนปฏิบัติ มีสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพกายที่แข็งแรง รวมทั้งภาพลักษณ์ที่ดีต่อตนเองและองค์กร

• รู้ระดับของ EQ ความฉลาดทางอารมณ์ของตนเองและความเครียดของตนเอง เพื่อเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองต่อไป
• สามารถบริหารจัดการอารมณ์ ความเครียด มีวิธีการสร้างความสุขด้วยตนเอง เพื่อทำให้เกิดสุขภาพจิต สุขภาพกายที่ดีกับตนเองและส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นได้

EQ คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร 

• แบบทดสอบ EQ 
• เทคนิคการบริหารจัดการอารมณ์
• ผลเสียของการควบคุมอารมณ์ไม่ได้ 

เรียนรู้ด้านต่างๆ ของ EQ เพื่อการพัฒนาตนเองในการทำงาน

• การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness)
• การควบคุมตัวเอง (Self-Management)
• ทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Social Skills)
• การเข้าใจผู้อื่น (Empathy)
• การจูงใจ (Motivation)

ความสุขในที่ทำงานเกิดจากอะไรได้บ้าง

แบบประเมินความเครียด

การสร้าง 4 ฮอร์โมนสร้างความสุข 

เทคนิคการผ่อนคลาย สลายความเครียด ด้วย

• การหายใจ

เทคนิคการสลายความเครียด พลังงานลบด้วย 

• Grounding and Shielding 

การสร้างพลังบวกด้วย Positive Self-Talk

การทำแผนพัฒนาส่วนบุคคล เพื่อจัดการความเครียด พัฒนา EQ และสร้างความสุขให้ตนเอง

ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้างาน และพนักงานทุกระดับขององค์กร