COURSES CATALOG

Empathic Communication for Building Trust

DURATION

2  Days

PRICE LIST

15,000  Baht (Exclusive of VAT 7%)
Special Offer : ติดต่อเรา

(การสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจในการขับเคลื่อนผลงาน)
 
“ผู้คนจะ ไว้วางใจ และยินดีให้ความร่วมมือกันอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อพวกเขาต่างสามารถรับรู้และเชื่อมั่นได้ว่าความต้องการและคุณค่า ของพวกเขาแต่ละฝ่ายได้รับการใส่ใจด้วยความเคารพ”
 
Empathy คือ ‘ความเข้าใจ’ หรือการที่เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนอื่น เรารับรู้ว่าเขากำลังรู้สึก หรือคิด อย่างไร หรือคาดหวัง และกำลังต้องการอะไรที่แท้จริง 
 
Empathy ไม่ได้แปลว่าสงสาร แต่เป็นความสามารถที่จะทำให้เรา ‘รับรู้’ ว่าอีกฝ่ายเขารู้สึกอย่างไร เขาคิดอะไร เพื่อที่เราจะตอบสนองและปฏิบัติต่อกันอย่างตรงจุด
 
Empathy ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความเข้าใจก่อนการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งให้คุณค่ากับการตอบสนองความต้องการทั้งสองฝ่ายอย่างสมดุล
 
Empathy ทุกพติกรรมของมนุษย์ทุกคนเป็นไปเพื่อการตอบสนองความต้องการบางอย่าง ดังนั้น การที่เราจะโน้มน้าวใจใครได้ จำเป็นมากที่เราจะต้องเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของเขาก่อน 
 
Empathy คือสิ่งที่พัฒนาและเรียนรู้ได้ โดยผ่านสิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศที่เอื้อให้รู้จักซื่อตรงและเคารพความรู้สึกตัวเองและผู้อื่น
 
คำว่า Empathy ถูกใช้ในบริบทที่หลากหลาย แต่ในมุมมองของนักจิตวิทยาอธิบายว่าคำที่มีความหมายใกล้เคียงที่สุดคือ ‘ความเข้าใจ’ หรือการที่เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์
ความหมายของคำว่า empathy นอกจากการรับรู้หรือการสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังรู้สึกแล้วนั้น ในอีกแง่หนึ่งคือการทดลองมองเห็นโลกผ่านสายตาของผู้อื่น ทำให้รู้ว่าคนอื่นคิดแบบไหน รู้สึกแบบไหน และอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
 
ในการทำงานของทุกองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบในงานที่ต้องมีการสื่อสารและการประสานงาน คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงกับบุคคลที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน หรือการมีเป้าหมายที่แตกต่างกันได้  หากมีทักษะการสื่อสาร เทคนิคการบริหารความแตกต่าง เทคนิคการโน้มน้าวจูงใจ และการนำเสนอที่เหมาะสม จะสามารถทำให้ผู้ที่ต้องประสานงานด้วย หรือฝ่ายอื่นๆนั้นเกิดการคล้อยตามทางความคิด  เชื่อถือ ยอมรับและยินดีดำเนินงานร่วมกันอย่างมีความสุขและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน
 
ในการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มากที่มีความแตกต่างและมีความหลากหลายนั้น การเกิดความขัดแย้งก็เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต คงไม่มีใครหลีกหนีความขัดแย้งพ้น ดังนั้นแทนที่จะถามว่า เราจะอยู่โดยไร้ความขัดแย้งได้อย่างไร คำถามที่เราควรใส่ใจมากกว่าก็คือ เราจะจัดการกับความขัดแย้งได้อย่างไร  ความขัดแย้งนั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษอยู่ที่การกระทำของเราเป็นสำคัญ หาได้ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งไม่ หากเรามีท่าทีที่ถูกต้อง ความขัดแย้งนั้นก็สามารถก็ให้เกิดผลที่สร้างสรรค์และสร้างความไว้วางใจได้  
 
ดังที่ หลักสูตร “Empathic Communication for Building Trust : การสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจในการขับเคลื่อนผลงาน ” ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความขัดแย้งนั้นสามารถเป็นสะพานพาเราไปเข้าไปนั่งในใจของผู้อื่น จนเกิดความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ อันนำไปสู่การสานสัมพันธ์ที่กระชับแน่น เปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร และความไว้วางใจ แต่จำทำได้เช่นนั้นได้ต่อเมื่อเรามีความมั่นคงทางจิตใจมากพอที่จะรับมือกับความขัดแย้ง โดยเปิดใจรับรู้ความเป็นจริงด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่ตัดสิน เท่าทันความรู้สึกและความคิดของตนเอง พร้อมทั้งใส่ใจกับความรู้สึก ความคิด และความต้องการของคู่กรณีด้วย
 
ความขัดแย้งไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอะไร พัฒนาการของมันล้วนขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ระหว่างคู่กรณี  และปฏิสัมพันธ์ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อความขัดแย้ง ได้แก่การสื่อสารระหว่างคู่กรณี การสื่อสารที่เต็มไปด้วยอารมณ์และอคติย่อมทำให้ความขัดแย้งลุกลามขยายตัวจนกลายเป็นความรุนแรง ในทางตรงกันข้าม การสื่อสารที่อิงอยู่กับข้อเท็จจริงและเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของอีกฝ่าย รวมทั้งตระหนักชัดในความต้องการของตนเอง ย่อมช่วยให้เกิดการหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันในที่สุด นอกจากนี้หากบุคลากรในองค์กรหรือผู้นำองค์กรสามารถใช้การสื่อสารอย่างสันติและสร้างความไว้วางใจได้ จะส่งผลให้ทีมงานเต็มใจที่จะสนับสนุนการทำงานของทีมและองค์กรอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รักษาและสร้างโอกาสทางธุรกิจในเชิงรุก
 
หลักสูตร Empathic Communication for Building Trust : การสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจในการขับเคลื่อนผลงาน ออกแบบเพื่อให้ผู้เข้าฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจและเพิ่มทักษะในการสื่อสาร การบริหารความแตกต่างระหว่างคนในทีม การประสานงาน และการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวและจูงใจ พร้อมทั้งการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รักษาและสร้างโอกาสทางธุรกิจในเชิงรุกแก่องค์กรมากยิ่งขึ้น
 
ซึ่งเนื้อหาหลักสูตรจะดำเนินการถ่ายทอดให้ผู้เรียนได้รับทั้ง Mindset : กรอบความคิด  Knowledge : ความรู้  Skill : ทักษะ  Tools : เครื่องมือการสื่อสาร และ Attribute : คุณลักษณะหรือรูปแบบการแสดงออกในการสื่อสาร ผ่านกระบวนการ 4C ดังต่อไปนี้
 
Confidence: สร้างความมั่นใจในความรู้และทัศนคติในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจ พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงภายในจิตใจ ให้ผู้เรียนสามารถจัดการอารมณ์และบริหารสถานการณ์ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
Competence: พัฒนาและฝึกทักษะที่สำคัญสำหรับการสื่อสาร เพื่อให้ผู้นำสามารถใช้ทักษะได้อย่างเป็นธรรมชาติตามสไตล์ของตนเอง
 
Connect to Implement: ฝึกประยุกต์ใช้ทักษะและเทคนิค กับสถานการณ์จริงของผู้เข้าอบรมเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้กับสถานการณ์ที่ต้องกลับไปเผชิญได้มากยิ่งขึ้น
 
Continuous Development: วางแผนการพัฒนาความรู้ ทักษะที่เรียนไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริงในการทำงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างแนวทางใหม่ๆในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจและสร้างผลลัพธ์ในการทำงานด้วยตนเอง
  • เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการบริหารทีมและการประสานงาน ช่วยเหลือ สนับสนุน และสร้างความไว้วางใจในการบริหารทีม
  • สามารถสร้างกลยุทธ์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และสร้างความไว้วางใจในการสื่อสารเพื่อการบริหารผลงาน การจูงใจทีมงาน ประสานงานและการทำงานร่วมกันให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น 
  • เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงาน / ทีมงาน / คนในองค์กรหรือลูกค้าที่มีมุมมอง / ทัศนคติ / วิถีปฏิบัติ / สไตล์การทำงาน / วิธีการพูด / รูปแบบการแสดงออกของแต่ละคนที่แตกต่าง ให้สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันโดยมุ่งสู่เป้าหมายเดียวอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • CHAPTER 1: กรอบแนวคิด ความสำคัญ และกระบวนการ สื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • CHAPTER 2: สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการสื่อสารในการบริหารทีมและการขับเคลื่อนผลงาน
  • CHAPTER 3: การบริหารสถานการณ์และจัดการอารมณ์เชิงลบที่อาจเกิดจากการสื่อสารหรือทำงานร่วมกัน (EQ)
  • CHAPTER 4: ทักษะการเข้าใจคนและวิเคราะห์วิธีการสร้างสัมพันธ์เพื่อการบริหารความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
  • CHAPTER 5:  ฝึกทักษะการเข้าใจภายในจิตใจของตนเองและคนที่แตกต่าง เพื่อสร้างความไว้วางใจ
  • CHAPTER 6: ทักษะการใช้คำพูดและการสื่อสารเพื่อเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งด้วยหลักการของ NVC (Nonviolent Communication)
  • CHAPTER 7: เทคนิคการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือในการขับเคลื่อนผลงาน
  • CHAPTER 8 : การบ้านเพื่อนำไปฝึกปฏิบัติและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ผู้บริหาร / ผู้จัดการ / หัวหน้างาน / ผู้ให้บริการ / บุคลากรในองค์กรทุกระดับ